วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทลงโทษในการทุจริตในการสอบ



     จากภาพด้านบน เป็นการทุจริตการสอบ ในแบบฉบับโบราณหรือพื้นฐานมาก แค่หันไปมองคำตอบของผู้อื่น คิดว่าภาพแค่นี้ น่าจะสื่อได้บ้าง เพราะเชื่อว่าทุกคนคงประสบกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ประถม มัธยม หรือนั่งอ่านหนังสือ ดูหนังด้วยกัน ก็มีแอบดูบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะมาใช้ในการสอบไม่ได้ ถือว่าผิดที่ผิดเวลา


แม้ว่าจะเป็นการชะเงอดู ไม่ทันได้บันทึกความจำว่าเขาเขียนอะไรบ้าง ก็มีผลไปถึงการส่อทุจริตได้ เพราะต่อให้ทุจริตไม่สำเร็จ อาจจะเป็นการส่อได้ เช่นง่าย ๆ พกพาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสอบเข้าห้องสอบ แม้ยังไม่ทำการสอบหรือยังไม่ทันได้เปิดข้อมูลเพื่อดูระหว่างทำข้อสอบ แค่พกเข้ามาโดยไม่รู้ตัว อาจจะเป็นการส่อทุจริตได้

เพื่อความสบายใจ สอบครั้งใด ให้ไปตัวเปล่า ให้เหลือแค่ความทรงจำ ความเข้าใจ และรอยยิ้มก็พอ เพราะการสอบเป็นเพียงการวัดผลการศึกษาในรูปแบบหนึ่ง เป้าหมายที่แท้จริง คือ การนำไปใช้ได้จริงและใช้ในทางที่เกิดประโยชน์

สำหรับโทษล่าสุดนี้ เพิ่งได้ตกลงกันใหม่ตามมติที่ประชุม คือ ให้พักการศึกษา ๒ ภาคการศึกษา ในภาคการศึกษาที่กระทำความผิดและภาคการศึกษาถัดไป (ไม่รวมภาคการศึกษาฤดูร้อน)

ดูจากโทษแล้ว รู้สึกใจไม่ดีกับผลที่ทำลงไป เพราะถ้าเราทำได้ แม้ทำได้น้อย ก็แค่ติด E แต่ไม่ถูกพักการศึกษา แต่ถ้าทำขึ้นมา ก็จะมีข้อสงสัยในระเบียนผลการเรียนที่ปรากฎว่าหายไป ๑ ปีการศึกษา เหมือนโดนหลายเท่าตัว เพราะการทุจริตในการสอบ บ่งบอกถึงความคิดของบุคคลที่อาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อตนเองและสังคมได้

อยากนักศึกษาทุกคนเปลี่ยนทัศนคติใหม่ ไม่ต้องอ่านหนังสือ ท่องหนังสือ ช่วงสอบเสมอไป แค่ทบทวนเนื้อหา แบบฝึก และแลกเปลี่ยนก็พอ เพราะบ่อยครั้งจะเห็นว่ามีนักศึกษาบางกลุ่มรวมตัวกันไปติว เหมือนไปสอนใหม่ บางคนไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก รอติวอย่างเดียว บางครั้งอาจจะไม่มีความรู้เดิมพอที่จะแลกเปลี่ยนหรือตอบย้ำ ลับคมสมองให้แตกฉานได้

แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะลำพังจะหาเวลาจะทบทวนก็ไม่เพียงพอแล้ว ขอให้เรียนอย่างมีความสุขแล้วกัน ทำตามความฝันของตัวเองและทำเพื่อประโยชน์ของสังคมต่อไป

ที่มา http://www.eng.ubu.ac.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น